แก้ไขชีวิตติดขัด วิธีถอนคำอธิษฐาน-แก้บนที่จำไม่ได้ ด้วยบุญผ่านพระรัตนตรัย ธูป3ดอก

ตั้งจิตให้มั่นคงเสียก่อน แล้วกล่าวตั้งนะโมฯ ๓ จบ


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ

ข้าพเจ้าชื่อ………………….สกุล…………………ด้วยสัจจะอธิษฐานทั้งในอดีตชาติและชาตินี้เรื่อง …………………………..(เอาที่จำได้ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดถึง) สิ่งของใดๆ ที่ได้บนบาน สาบาน สาปแช่ง ที่จำได้ก็ดี และจำไม่ได้ก็ดี มาถึงบัดนี้ ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน บนบาน สาบาน สาปแช่งทั้งหมด ถวายแก้บนทั้งหมด ณ บัดนี้



ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร ดวงจิตวิญญาณทั้งหลายโปรดมารับ โปรดมาโมทนา โปรดมาอโหสิกรรม และโปรดสงเคราะห์ตามความประสงค์ขอข้าพเจ้าในครั้งนี้ โปรดถอนตัวจากอุปสรรคทั้งปวงทั้งในเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ ขอโปรดเมตตาให้ข้าพเจ้าได้พบกับกรรมดี บุญกุศลที่เคยทำมา มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

เคล็ดวิธีที่นำมาให้รับทราบนี้ เป็นการ“วิธีถอนคำอธิษฐาน แก้บนที่จำไม่ได้ด้วยบุญ” ที่รวมเรื่องคำสาปแช่งไว้ด้วย เพราะเราอาจจะเคยแค้นเคืองคนอื่นเขาจนไปสาปแช่งอะไรไว้ มันจะย้อนเข้าหาตนเองเมื่อช่วงที่ดวงตกเอามากๆ เป็นช่วงที่วิบากกรรมไม่ดีมาส่งผลเต็มที่

เป็นวิธีที่แสนง่ายดาย แต่ได้ผลซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย และไม่เสียเงินทองมากหรือไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว และเป็นการเปิดทางใหม่ของตนเองไว้อย่างยาวเลย เพราะกว่าจะเข้าถึงพระนิพพานที่ถือว่าเป็นสุดทางของการเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ที่ต้องเกิดมาอีกหลายชาติกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน

แต่ที่สำคัญมากๆ ก็คือ เมื่อได้วิธีถอนคำอธิษฐาน แก้บนที่จำไม่ได้ ถอนคำสาปแช่งแล้ว อย่าได้ไปทำอีกเป็นอันขาด ถ้าไม่ใช่เป็นการอธิษฐานเพื่อสร้างบุญกุศล สร้างกรรมดีเพราะจะต้องมานั่งแก้ไขในเรื่องนี้ตลอดเวลาของชีวิต

ท่านที่เจอเรื่องหนักๆ อุปสรรคต่างๆ มาตลอดชีวิตแนะนำว่าให้ทำการถอนคำอธิษฐาน แก้บนที่จำไม่ได้ด้วยบุญนี้ทุกครั้งหรือเท่าที่นึกได้ตลอดเวลาก็จะดีต่อท่านมาก ทำเถอะไม่ได้เสียเวลา เสียเงินอะไรเลย

หากชีวิตยังพบกับอุปสรรคอีก ก็ขอให้เข้าใจตรงกันว่า เรานั้นเกิดมาหลายภพชาติไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว สร้างกรรมไม่ดีและกรรมดีมากมาย เมื่อกรรมไหนส่งผลแล้วก็จบสิ้นไปกรรมอื่นก็ต้องเข้ามาส่งผล เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม

แต่แก้ไขได้ด้วยการสร้างกรรมดีใหม่ที่เป็นกรรมหนักฝ่ายดีให้มากตลอดเวลา เพื่อพาตนเองหนีกรรมไม่ดี ยิ่งทำมากเท่าใด กรรมไม่ดีนี้ก็ตามไม่ทัน มาส่งผลไม่ได้

ชีวิตก็จะพบแต่เรื่องดีๆ มีโชค มีลาภ มีความสุข
ได้ทุกสิ่งที่ถูกธรรมตลอดชีวิตที่น้อยนักนี้แน่นอน

เนื้อหาโดย: Fuckyou
ทีมา : postjung.com

เตือนภัย!! กินผงชูรสมากเกินไป..อาจเสี่ยงถึงตายได้โดยไม่รู้ตัว!!!



“ผงชูรส” ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังโดยขบวนการทางเคมี ซึ่งมีทั้งกระบวนการหมักและต้องใช้สารเคมีหลายตัว เช่น กรดกำมะถันหรือกรดซัลฟูริค กรดเกลือหรือกรดไฮโดรคลอริก ยูเรีย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในปัสสาวะของคน นอกจากนี้ยังต้องใช้โซดาไฟอีกด้วย
ผงชูรสไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ ถึงแม้จะเกี่ยวข้องกับกรดกลูตามิค ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ไม่มีความจำเป็น เพราะร่างกายผลิตเองได้ จึงไม่มีคุณค่าทางอาหารแต่อย่างใดทั้งสิ้น

อนึ่งผงชูรส เป็นสารเคมีคนละตัวกับกรดกลูตามิคที่มีอยู่ในธรรมชาติและในอาหารประเภทโปรตีน โดยที่ผงชูรสเป็นเกลือโซเดียมเช่นเดียวกับเกลือแกง เป็นคนละตัวกับกรดเกลือที่หลั่งอยู่ในกระเพาะอาหารเวลาหิว

พิษภัยและอันตรายของผงชูรสอาจแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. ส่วนที่เกิดจากโซเดียม

– ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายมนุษย์ลดลง

– ทำให้เกิดการคั่งในสมองเด็ก ซึ่งเมื่อเด็กโตขึ้นจะเป็นคนปัญญาอ่อน

– ทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคมา ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สาเหตุ อาจทำการรักษาผิดพลาดเป็นอันตรายได้

– เป็นภัยต่อหญิงมีครรภ์ทำให้ร่างกายบวม และยังมีพิษภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย

– อันตรายต่อผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคไต ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ที่แพทย์ห้ามกินของเค็ม

2. พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวผงชูรสแท้
ทำให้เกิดอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชาและร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้ม ต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก เป็นต้น

– ทำลายสมองส่วนหน้าที่เรียกว่าไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโต และระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย ทำให้การเจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เป็นหมัน อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง ทั้งในเรื่องขนาดและน้ำหนัก

– ทำลายระบบประสาทตา

– ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้

– ทำให้ไวตามินในร่างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวตามินบี-6 ทำให้ร่างกายผิดปกติและเป็นโรคผิวหนังได้ง่าย

– เกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผงชูรสที่ผ่านความร้อนสูงๆ เช่น การปิ้ง ย่าง เผา

– ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System) ทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น

– เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทำให้ร่างกายเกิดวิรูปหรือผิดปกติ

– ถ้ากินมากจะผ่านเยื่อกั้นระหว่างรกภายในร่างกายของมารดากับทารกในครรภ์ได้

– ทำให้เด็กเล็กถึงตายได้ เด็กไทยอายุ 20 เดือนถึงแก่ความตาย เมื่อกินขนมครกโรยผงชูรสด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำตาล


รู้อย่างนี้แล้วก็ควรลดปริมาณการกินผงชูรสให้น้อยลงนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา!!

ที่มา : http://www.thaihiggs.com/19697

23 ภาพที่เป็นเหตุผลหลักๆ ว่าทำไมผู้หญิง ถึงมีอายุยืนกว่าเหล่าผู้ชาย!!!

ในบางครั้งนั้น การที่เหล่าผู้ชายพูดว่าผู้หญิงนั้น แก่งาย แต่ตายยาก อาจจะไม่เป็นความจริงเสมอไป แต่อาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นหรือเปล่า

วันนี้เราก็เลยนำพฤติกรรมห่ามๆ ของเหล่าผู้ชายทั้ง 23 ภาพ ที่จะมาเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณผู้หญิงถึงมีอายุยืนกว่าคุณผู้ชาย เพราะใช้ชีวิตแบบนี้น่ะสิ มาดูกันเลย!!!

 ปลอดภัยมากๆ












ทีมา : http://board.postjung.com/921095.html

โอ้โห! ลูกชายหม่ำ จ๊กม๊ก เห็นแบบนี้ มีแฟนสวยเป็นดาราได้เลยนะเนี่ย จะสวยแค่ไหนมาดูกัน

ใจหายใจคว่ำหมดเลย  เห็นแว๊บแรก  นึกว่า ตลกรักครอบครัว อย่าง หม่ำ  ม๊กจ๊ก  นอกใจศรีภรรยามดซะแล้ว

แต่….ที่ไหนได้  รูปสวีทหวานกับสาวนิรนาม  ที่แท้คือ หนุ่ม มิกซ์ เพทาย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหม่ำนี่เอง  ว่าแตว่า สาวน้อยผู้กุมหัวใจหนุ่มมิกซ์คนนี้  หน้าตาน่ารักมิเบาเลยน๊าาาาา







ทีมา : http://www.siamupdate.com/news-177796

ใจสลาย! ลูกหิวข้าวไม่มีคนอยู่บ้านใช้หม้อไฟฟ้าจนไฟดูด พ่อนั่งร้องไห้รอปาฏิหาริย์ สุดท้ายเธอกลายเป็นแบบนี้!

พ่อใจสลาย! ไม่อยู่บ้านเด็กคนนี้เธอหิวข้าวเลยหุงข้างกินเองด้วยหม้อไฟฟ้า แต่สุดท้ายโดนไฟฟ้าดูด คนเป็นพ่อเลยทำตามความเชื่อโบราณโดยนำทรายมากลบเพื่อนำไฟฟ้าออกจากร่างกาย แต่สุดท้ายน้อยก็ไม่หายใจเสียแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยครับ





*ทางสยามอัพเดท ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยนะครับ ลูกอยู่บ้านคนเดียวระวังด้วยนะครับ


เครดิต: Viroj Tuntikula
ทีมา : http://www.siamupdate.com/news-177748

เอาล่ะสิ! สดๆร้อนๆ วันนี้วันเกิดเมีย หนุ่มถูกหวย 30 ล้าน และเขาจะตัดสินใจทำแบบนี้ มีคนเห็นด้วยจำนวนมาก



ดราม่า "เงิน" ถูกหวย 30 ล้านบาทยังไม่จบ "หนุ่มอุดรฯดวงเฮง" อ้อนอยากส่งเค้กวันเกิดให้ "อดีตเมีย" แม้จะรักเงินมากกว่าก็ตาม ย้ำ "ยังรักเขาทุกลมหายใจ" ด้านฝ่ายหญิงแจงคงคืนดีกันไม่ได้แล้ว“
กรณีนางเสาวนีย์ ทองวิเศษ หรือมด อายุ 27 ปี ร้องขอความเมตตาจากศาลเยาวชน หลังถูกสามีหนุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กว่า 30 ล้านบาท บอกเลิก ทั้งที่สู้ฝ่าฟันความยากลำบากมาด้วยกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 ต.ค. นายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 89 หมู่ 4 บ้านหนองบ่อ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รปภ.ดวงเฮง เปิดเผยว่า หลังจากออกพรรษาแล้ว กำลังหาฤกษ์งาม-ยามดี ทำบุญอุทิศกุศลให้พ่อ-แม่ พร้อมวันที่จะบวช ถึงแม้ว่าบ้านจะยังสร้างบ้านไม่เสร็จก็ตาม ซึ่งจะให้พี่สาวมาคอยดูแลต่อ เพราะได้ทำสัญญากับผู้รับเหมาเอาไว้ มีหน้าที่จ่ายเงินเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้ได้แต่ทำใจ เพราะทุกอย่างทำนิติกรรมไว้ให้กับลูกชายเพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เลี้ยงดูเขาในอนาคตก็ตาม "

ผมยังรักคนเดียวเหมือนเดิม ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ ไปมีคนรักคนใหม่ ซึ่งยังจำวันเกิดของเมียได้ตลอดเวลา จำขึ้นใจว่า วันที่ 18 ต.ค. เป็นวันเกิดของเมียรัก อยากส่งเค้กไปไห้ แต่ไม่กล้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปเบิร์ธเดย์เมียก็ตาม แต่ขอให้เขามีความสุขในวันเกิด ให้รักลูกให้มากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักผม รักเพียงเงินของผมก็ตาม ผมก็ยังรักเขา รักเขาอยู่ทุกลมหายใจ ส่วนในวันที่ 30 พ.ย. ที่นัดไปไกล่เกลี่ยที่ศาล ก็จะเดินทางไปพร้อมกับทนายความและญาติ ผลจะเป็นเช่นไร ก็จะปฏิบัติตาม" หนุ่มเฮงถูกหวย 30 ล้าน กล่าว


ด้านนางเสาวนีย์ ทองวิเศษ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 10 บ้านเดียม ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี กล่าวว่า วันนี้ก็จะให้สัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะข่าวที่มีการนำเสนอออกมานั้น มีทั้งทางดีและทางไม่ดีกับตนและครอบครัว ส่วนวันเกิดตน ก็จะทำบุญตักบาตรตอนเช้าอยู่หน้าบ้านกับลูกชาย ถึงไม่มีพ่อ จะไม่มีการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิด มีเพียงแค่กินข้าวร่วมกันกับญาติพี่น้องเท่านั้นเอง โดยในวันไปขึ้นศาลไกล่เกลี่ยนั้น ก็จะนำรถปิกอัพที่เป็นชื่อของนายธรรมรงค์เอาไปด้วย ซึ่งในตอนนี้จะหันหลังกลับไปคืนดีกับเขาไม่ได้แล้ว ก็คงจะเลี้ยงลูกคนเดียวตลอดไป.“

 ทีมา : http://www.siamupdate.com/news-177793

สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะอาหาร



สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหาร (peptic ulce) หมายถึงอาการปวดแสบ ปวดต้อ ปวดเสียด หรือจุกแน่น ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ (เหนือสะดือ) เวลาก่อนรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารใหม่ ๆ สาเหตุสำคัญของโรคกระเพาะคือ ความเครียด (วิตกกังวล คิดมาก เคร่งเครียดกับการงาน การเรียน) พฤติกรรมการรับประทานอาหารผิดเวลา และการรับประทานอาหารที่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เช่น เหล้า เบียร์ แอสไพริน(ยาแก้ปวด ยาซอง) ยาแก้ปวดข้อ ยาชุด หรือยาลูกกลอนที่ใส่สเตียรอยด์ เครื่องดื่มชูกำลัง ที่เข้าสารคาเฟอีน เป็นต้น
การรักษาโรคกระเพาะ โดยการรับประทานยา และดูแลสุขภาพ ของตนเอง ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
2. รับประทานอาหาร 3 มื้อตามปกติ (ถ้าปวดมากในระยะแรก ควรรับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย เช่นข้าวต้ม) อย่ารับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัดไม่จำเป็นต้องแบ่งรับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยมื้อขึ้นดังที่เคยแนะนำกันในอดีต เพราะยิ่งรับประทานมากนอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว (ต้องคอยลดความอ้วนอีก) ยังอาจทำให้อาการกำเริบได้ง่ายอีกด้วยคนที่เป็นโรคกระเพาะบางครั้งอาจรู้สึกหิวง่ายก็ควรรับประทาน ยาลด กรดแทนนมหรือข้าว
3. งดเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม และบุหรี่เพราะจะทำให้โรคกำเริบได้
4. ห้ามรับประทานยาแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ ยาที่เข้าเตรียรอยด์ (ในรายที่จำเป็นต้องใช้ยาเหล่านี้รักษาโรคอื่น ควรปรึกษาแพทย์)
5. คลายเครียดด้วยการออกกำลังกาย (เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ รำมวยจีน โยคะ เต้นแอโรบิก) หรือทำสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ หรือเจริญภาวนาตามศาสนาที่ตัวเองนับถือ คนที่เป็นโรคกระเพาะเนื่องจากความเครียด การปฏิบัติในข้อนี้ จะมีส่วนช่วยให้โรคหายขาดได้
นอกจากนี้ยังมีภูมิปัญญาแบบไทยๆ ที่คนโบราณใช้เยียวยารักษาโรคกระเพาะ โดยไม่ต้องพึ่งยาฝรั่ง ลองเอาไปใช้ดู
กล้วยน้ำว้า
------------
นำผลมาปอกเปลือก หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง บดให้ละเอียดเป็นผง ใส่ขวดเก็บไว้ ใช้ผง 1-2 ช้อนโต๊ะชงน้ำร้อนดื่ม หรือผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน กินก่อนอาหารและก่อนนอน
ขมิ้นชัน
---------
ใช้เหง้าแก่สด ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดจัด 1-2 วัน บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน หินครั้งละ 3-5 เม็ด (ถ้าบรรจุแคปซูล กินครั้งละ 2 แคปซูล) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
ว่านหางจระเข้
---------------
ใช้ใบสดที่เพิ่งตัดออกจากต้น นำมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกส่วนที่มีสีเขียวออกให้หมดเหลือแต่วุ้นใส หากมียางสีเหลืองติดที่วุ้นให้ล้างออกก่อน หั่นวุ้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 3 นิ้ว ล้างให้สะอากอีกครั้ง กินวันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้า เย็น
กระเจี๊ยบเขียว
---------------
ใช้ผักลวกกินน้ำพริกทุกวัน เมือกลื่นๆ ในผลกระเจี๊ยบเขียว ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้
หัวปลี
-------
นำปลีกล้วยน้ำว้ามาเผา แล้วบีบเอาแต่น้ำ ได้ประมาณครึ่งแก้ว ดื่มก่อนอาหาร รสชาติฝาดเฝื่อน กินยากมาก แต่มีตนกินติดกันประมาณ 3 วัน อาการปวดกระเพาะที่อักเสบเรื้อรังมานานหายสนิท
** ข้อแนะนำ : ในการรับประทานอาหารแต่ละอย่าง ต้องรับประทานให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่พอเหมาะกับร่างกาย
ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป นั่นก็คือการพิจารณาสัดส่วนอาหารให้เหมาะกับ วัย เพศ ขนาดของร่างกาย สุขภาพ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : samunpai.com