อ่านแล้วรู้ซึ้งหัวอกคนเป็นแม่!! "โอปอล์" กับชีวิตที่ต้องนอนนิ่งกว่า 1 เดือน

แม้ว่าช่วงระยะเวลาในการตั้งครรภ์ลูกแฝดของดาราสาว "โอปอล์ ปาณิสรา" ต้องเป็นไปอย่างลุ้นระทึก หลังตรวจพบภาวะครรภ์ผิดปกติ ถึงขั้นเสี่ยงแท้งลูก แต่มาวันนี้ด้วยความเข้มแข็งของว่าที่คุณแม่ บวกกับกำลังใจดีๆจากสามีอย่าง "หมอโอ๊ค สมิทธิ์" ที่เป็นเหมือนเสาหลัก และคอยอยู่เคียงข้างไม่ห่าง เลยทำให้สาวโอปอล์ สามารถผ่านช่วงเวลาหวาดเสียวในชีวิตมาได้ แต่ก็ยังคงต้องนอนนิ่งอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะถึงวันที่ลูกแฝดตัวน้อยๆได้ลืมตาดูโลก โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2558 สาวโอปอล์ ได้โพสต์อัพเดทสภาพร่างกายของเธอผ่านเฟซบุ๊ก opal panisara official ข้อความระบุว่า..

              " นอนนิ่งๆที่รพ.มาได้ 1เดือนกว่าแล้วค่ะ ชินแล้วกับการทำทุกอย่างบนเตียงทั้งเข้าห้องน้ำ เช็ดตัว กินข้าว ไม่ต้องห่วงปอล์นะคะ ปอล์ไม่ได้ใช้ความอดทนอะไรเลย ให้นอนนิ่งๆแบบนี้ไปอีกนานๆแค่ไหนก็ได้เพื่อให้ลูกๆแข็งแรงอยู่ในท้องได้นานที่สุด ให้ทำอะไรทำได้หมดจริงๆค่ะ ตอนนี้เริ่มสบายใจขึ้นแล้วเพราะอายุครรภ์ได้ 27สัปดาห์ มีความสุขกับทุกวัน ทุกวินาทีที่ผ่านไป เพราะรู้ว่าลูกๆในท้องกำลังแข็งแรงขึ้น แต่ช่วงแรกหนักหน่อยค่ะ เพราะปอล์มีอาการจะคลอดตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 23 สัปดาห์ ท้องแข็ง ปากมดลูกเปิด และมีเลือดออก ถ้าคลอดตอนนั้นจริงๆ รู้ว่าโอกาสการรอดของลูกน้อยมาก ช่วงนั้นร้องไห้ทุกวัน ตั้งตัวไม่ติด สติไม่มา เสียใจที่เราทำอะไรไม่ได้เลย แต่ละวันก็ผ่านไปอย่างช้าๆ ถ้าไม่มีพี่โอ๊คที่คอยเป็นหลักและอยู่ข้างๆกันตลอด และครอบครัวของเรา2คนคอยเป็นกำลังใจ ปอล์ไม่มีทางผ่านช่วงนั้นมาได้แน่ๆ

ส่วนอาการตอนนี้ยังคงต้องดูเป็นวันๆไปค่ะ คาดเดาไม่ได้เลยว่าลูกๆจะอยากออกมาเมื่อไหร่ ก็ได้แต่นอนนิ่งๆและให้ยาทางเลือดเพื่อระงับการคลอด ร่างกายตอบสนองยาได้ดีค่ะ กำลังใจก็ดีมากๆค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ สติมาแล้ว ปอล์กับสามีพร้อมเผชิญหน้าและรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งและเข้าใจ ทุกข้อความที่ส่งมาให้กำลังใจ ทั้งในเพจ ในig ในtwitter ปอล์อ่านทุกข้อความนะคะ ถึงจะไม่ได้ตอบทั้งหมด แต่อยากบอกว่าปอล์ พี่โอ๊ค และครอบครัวขอขอบคุณค่ะ ขอบคุณทุกความห่วงใยจากใจ ขอบคุณนะคะ "


             ทั้งนี้ โอปอล์ ยังได้โพสต์ภาพน่ารักๆของสามีขณะนอนสลบไสล เฝ้าดูแลในห้องพักคนไข้ พร้อมข้อความระบุว่า " คนมาเฝ้าเหนื่อยกว่าคนถูกเฝ้าอีก "

ขอบคุณภาพจาก FB: opal panisara official


ทีมา : http://entertain.tnews.co.th/content/161023/

Share this

Related Posts